Advance Innovation Technology Co., Ltd is a company that specializes in providing innovative technology solutions to businesses. The company was founded in 2001 and is headquartered in Bangkok, Thailand.

Gallery

Contacts

600/61 โครงการ บี สแควร์ พระราม 9-เหม่งจ๋าย, ซอย สหการประมูล แขวง วังทองหลาง เขต, กรุงเทพมหานคร 10310

info@aitinnovation.co.th

+66 2530 9445-46

นโยบายและแนวปฏิบัติเพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สำหรับลูกค้า, คู่ค้า และผู้ติดต่อภายนอก (Privacy Policy for Customer, Partner and Outside contacts) แอ็ดวานซ์ อินโนเวชั่น เทคโนโลยี จำกัด

(วันที่ปรับปรุงข้อมูลล่าสุด 1 ตุลาคม พ.ศ. 2567)

         บริษัทแอ็ดวานซ์ อินโนเวชั่น เทคโนโลยี จำกัด ได้ให้ความสำคัญต่อการกำหนดมาตรการเพื่อการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและรักษาความมั่นคงปลอดภัยซึ่งถือเป็นหลักเกณฑ์ ที่ให้ความสำคัญต่อการดูแลลูกค้าหรือผู้ใช้บริการ, คู่ค้า และผู้ติดต่อภายนอกที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างยิ่ง บริษัท จึงได้จัดทำนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ขึ้น เพื่อแจ้งให้ลูกค้าหรือผู้ใช้บริการ, คู่ค้า และผู้ติดต่อภายนอกที่เกี่ยวข้อง ทราบถึงแนวทางปฏิบัติ ในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ตลอดจนสิทธิตามกฎหมายในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ดังนี้

1. คำจำกัดความ

        “บริษัทฯ” หมายถึง บริษัทแอ็ดวานซ์ อินโนเวชั่น เทคโนโลยี จำกัด

         “คู่ค้าฯ” หมายถึง คู่ค้า และผู้มีความสัมพันธ์ทางธุรกิจ

         “PDPA” หมายถึง พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562

         “Privacy Policy” หมายถึง นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้

         “บุคคล” หมายถึง บุคคลธรรมดา

         “ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้ สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ

         “ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล (ในที่นี้หมายถึง บริษัทฯ)

         “คู่ค้า” หมายถึง บุคคลที่จะขายหรือขายสินค้า และเหรือบริการให้แก่บริษัทฯ. ไม่ว่าจะได้ขึ้นทะเบียนเป็นคู่ค้ากับบริษัทฯ หรือไม่ เช่น คู่สัญญา ผู้ให้บริการ ที่ปรึกษา เป็นต้น และให้หมายความรวมถึงบุคคลธรรมดาที่เกี่ยวข้องหรือเป็นตัวแทนของนิติบุคคลซึ่งเป็นคู่ค้า เช่น ผู้บริหาร กรรมการ พนักงาน ลูกจ้าง ตัวแทน ผู้แทน หรือบุคคลธรรมดาอื่นใด และบุคคลที่มีข้อมูลส่วนบุคคลปรากฎในเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในการทำธุรกรรมระหว่างบริษัทฯ กับนิติบุคคลนั้น เช่น ผู้ประสานงาน ผู้ส่งสินค้า ผู้สั่งจ่ายเช็ค เป็นต้น รวมทั้งบุคคลที่นิติบุคคล นั้นได้ให้ข้อมูลไว้แก่บริษัทฯ ด้วย

         “ผู้มีความสัมพันธ์ทางธุรกิจ” หมายถึง บุคคลอื่นซึ่งมิใช่ลูกค้า คู่ค้า หรือผู้ปฏิบัติงานในบริษัทฯ ที่มีความสัมพันธ์ในลักษณะที่เกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจ เช่น ผู้ปฏิบัติงานในหน่วยราชการซึ่งกำกับการประกอบธุรกิจหรือกำกับดูแลการปฏิบัติตามกฎหมายผู้สนใจเข้าร่วมโครงการธุรกิจหรือผู้เข้าร่วมโครงการธุรกิจตัวแทนหรือนายหน้าในการจัดหาสินค้าหรือบริการให้แก่บริษัทฯ และให้หมายความรวมถึงบุคคลธรรมดาที่เกี่ยวข้องหรือเป็นตัวแทนของนิติบุคคลนั้น เช่น ผู้บริหาร กรรมการ พนักงาน ตัวแทน ผู้แทน หรือบุคคลธรรมดาอื่นใด และบุคคลที่มีข้อมูลส่วนบุคคลปรากฎในเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในการทำธุรกรรมระหว่างบริษัทฯ กับนิติบุคคลนั้น

         “ลูกค้าคู่สัญญา” หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งรวมถึงบุคคลคนเดียวหรือหลายคนซึ่งเป็นผู้มีอำนาจหรือได้รับมอบหมายให้กระทำการแทนนิติบุคคล เพื่อเข้าเป็นคู่สัญญาทางธุรกิจกับ บริษัทฯ ในฐานะลูกค้าหรือคู่ค้าไม่ว่าจะเป็นผู้ซื้อหรือขายสินค้า ผู้ให้หรือรับบริการ ผู้ฝากหรือรับฝากสินค้า

         “ผู้สมัครงาน” หมายถึง บุคคลผู้ยื่นคำขอให้บริษัทฯ พิจารณาข้อมูลส่วนบุคคลของตนเพื่อเป็นคุณสมบัติในการสรรหาและคัดเลือกคนเข้าทำงาน

นโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับลูกค้า

 

2. การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดย บริษัท แอ็ดวานซ์ อินโนเวชั่น เทคโนโลยี จำกัด

มีความจำเป็นต้องใช้ข้อมูลเป็นพื้นฐานที่สำคัญ ซึ่งรวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลธรรมดา (ข้อมูลส่วนบุคคล) ที่สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม (Identified or Identifiable Person) อาทิ ชื่อ นามสกุล รูปถ่าย บัตรประจำตัวประชาชน รายละเอียดที่อยู่และการติดต่อ ข้อมูลประวัติส่วนตัว เป็นต้น ทั้งจากเจ้าของข้อมูลที่ได้รับมาโดยตรงและจากแหล่งอื่น ได้แก่ ส่วนราชการ หน่วยงานภาครัฐ คู่สัญญา ผู้ประกอบธุรกิจ ประชาชน และนิติบุคคลอื่น 

 

3. วัตถุประสงค์ของบริษัทฯ ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัท แอ็ดวานซ์ อินโนเวชั่น เทคโนโลยี จำกัด เป็นผู้ให้บริการให้คำปรึกษาและออกแบบระบบไอที สำหรับหน่วยงานต่าง ๆ และฝึกอบรมการใช้งานซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์และรวมถึงให้บริการเช่า Web Hosting, Cloud Hosting, Cloud VPS, Co-Location, SSL, Dedicated Server, Streaming Serve โดยนโยบายส่วนข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ดำเนินการจะแยกตามการให้บริการดังกล่าวโดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มดังต่อไปนี้

3.1 ให้บริการลูกค้ากลุ่มหน่วยงานหรือองค์กรที่บริษัทฯ ให้บริการออกแบบระบบไอที โดยกลุ่มลูกค้าดังกล่าวบริษัทฯ ทำหน้าที่เป็น “ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล” หมายความถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งหมายถึง หน่วยงานหรือองค์กรเจ้าของข้อมูลที่บริษัทรับจ้างในการนำข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวมาประมวลผล ขึ้นอยู่กับภาระกิจหรือข้อมูลของผู้ว่าจ้างที่เป็นผู้ควบคุมข้อมูลเป็นผู้กำหนด เพื่อนำข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวไปจัดทำให้ข้อมูลอยู่ในรูปแบบของระบบทางด้านไอทีตามภาระของหน่วยงานที่เป็นผู้ว่าจ้าง โดยบริษัทฯ มีนโยบายและมาตราการในการดำเนินการรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลดังนี้

3.1.1   การลงนามในเอกสารในการรักษาความลับและไม่เปิดเผยข้อมูล

ก่อนการดำเนินงานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลทางบริษัทฯ และผู้ว่าจ้างซึ่งผู้เป็นเจ้าของหรือผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลจะต้องลงนามในเอกสารการรักษาความลับและไม่เปิดเผยข้อมูลก่อนการดำเนินการ โดยในเอกสารจะระบุถึงรายละเอียดเนื้อหาและการรับผิดชอบและข้อกำหนดต่างๆ ที่บริษัทฯ จะต้องดำเนินการตามมาตรการที่ทางผู้ว่าจ้างกำหนด หรือ ปฏิบัติตามข้อกำหนดในรายละเอียดสัญญาที่ลงนามไว้

3.1.2 การขอความยินยอม หรือ Consent ตาม พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data Protection Act) เพื่อมีไว้เพื่อขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลเพื่อประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล โดยมีรายละเอียดของข้อมูลส่วนบุคคลที่ต้องนำไปใช้ให้ครบถ้วนและจะต้องขอความยินยอมใหม่ทุกครั้งเมื่อรายละเอียดเนื้อหาในเอกสารดังกล่าวมีการเปลี่ยนแปลง หรือ ปฏิบัติตามข้อกำหนดในรายละเอียดสัญญาที่ลงนามไว้

 3.1.3  การนำข้อมูลส่วนบุคคลไปประมวลผล โดยการเก็บรวบรวม การบันทึก การจัดระเบียบ การจัดโครงสร้าง การจัดเก็บ  การดัดแปลง ปรับเปลี่ยน การกู้คืน การใช้ การเปิดเผยโดยการส่ง การแพร่กระจาย หรือทำให้มีอยู่ การจัดวางให้ถูกตำแหน่งหรือการรวม การจำกัด การลบ และการทำลาย รวมถึงการอื่นใดที่ถูกควบคุมโดยกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล จะทำการบันทึกกิจกรรมการประมวลผลขององค์กรที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล ตามมาตรา 39 พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (Records of Processing Activities) ROPA  ทุกครั้ง โดยมีมาตรการในการบันทึกกิจกรรมดังนี้

  • ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการเก็บรวบรวม จัดเก็บรายละเอียดประเภทเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล และประเภทของข้อมูลส่วนบุคคล
  • วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละประเภท
  • ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลตัวแทนและเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงช่องทางการติดต่อ
  • ระยะเวลาในการเก็บรักษาและการลบข้อมูลส่วนบุคคลประเภทต่างๆ
  • สิทธิและวิธีการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลรวมทั้งเงื่อนไขเกี่ยวกับการขอใช้สิทธิเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลนั้น
  • การใช้หรือเปิดเผยข้อมูลที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องขอความยินยอม

3.2. ให้บริการลูกค้ากลุ่มผู้เช่าใช้บริการ Web Hosting, Cloud Hosting, Cloud VPS, Co-Location, SSL, Dedicated Server, Streaming Serve โดยกลุ่มลูกค้าดังกล่าวบริษัทฯ จะจัดเก็บข้อมูลการติดต่อ ได้แก่ ชื่อ นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ อีเมล์ ที่อยู่สำหรับการติดต่อสำหรับส่งเอกสารการแจ้งหนี้ อีเมล์ เพื่อใช้สำหรับในการให้บริการ โดยมีระยะเวลาในการจัดเก็บ 2 ปี หลังยกเลิกการบริการ บริษัทฯ เป็นผู้ให้บริการเช่าพื้นที่ดังกล่าวเท่านั้น ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลที่ผู้เช่าใช้บริการนำมาติดตั้งในบริการของบริษัทฯ 

 

4. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมใช้หรือเปิดเผยตลอดจนระยะเวลาในการเก็บฯ

        ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าหรือผู้ใช้บริการ , คู่ค้า และผู้ติดต่อภายนอก รวมถึงผู้มีความสัมพันธ์ทางธุรกิจบริษัทฯ จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลโดยการขอหรือสอบถามข้อมูลเหล่านั้นเองโดยตรง อย่างไรก็ตาม ในบางกรณีบริษัทฯ อาจมีการเก็บรวบรวมข้อมูลของท่านจากแหล่งอื่น เช่น บริษัทต้นสังกัด พนักงาน เลขานุการหรือผู้ประสานงานแทน และผู้มีความสัมพันธ์ทางธุรกิจหน่วยงานราชการหรือหน่วยงานของรัฐ หรือแหล่งข้อมูลอื่น ๆ ซึ่งเปิดเผย แบบสาธารณะ เช่น เว็บไซต์ ข้อมูลที่ค้นหาได้ทางอินเตอร์เน็ต เป็นต้น

        ทั้งนี้ บริษัทฯ ดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังต่อไปนี้

        4.1 ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป

                  1) ข้อมูลที่ใช้ระบุตัวตน (Identity Dala) เช่น ชื่อ นามสกุล เลขประจำตัวบัตรประชาชน เลขหนังสือเดินทาง วันเดือนปี เกิด เพศ อายุ สัญชาติ ลายมือชื่อ ภาพถ่าย เลขประจำตัวใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ข้อมูลใบอนุญาตขับรถยนต์ ชื่อผู้ใช้งาน ระบบอิเล็กทรอนิกส์ (Username) เป็นต้น

                  2) ข้อมูลติดต่อ (Contact Data) เช่น ที่อยู่ สำเนาทะเบียนบ้าน เบอร์โทรศัพท์ เบอร์โทรสาร อีเมล ตำแหน่งที่อยู่ (Geolocation) ชื่อผู้ติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน บัญซีการใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ LINE ID เป็นต้น

                  3) ข้อมูลทางการเงิน (Financial Data) เช่น หมายเลขบัญชีธนาคาร เป็นต้น

                  4) ข้อมูลการติดต่อกับบริษัทฯ (Communication Data) เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับวัน เวลา สถานที่ที่ติดต่อ ข้อมูลการบันทึกภาพและหรือเสียงเมื่อมีการติดต่อบริษัทฯ เป็นต้น

                  5) ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทหรือหน่วยงานที่ทำงาน เช่น บริษัทที่ทำงานหรือหน่วยงานต้นสังกัด สถานที่ทำงาน ตำแหน่งงาน เป็นต้น

                  6) ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติการศึกษา ประวัติการทำงาน การฝึกอบรม ความเชี่ยวชาญ และผลงานต่างๆ เป็นต้น

                  7) ข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะความชอบ ความสนใจส่วนบุคคล

                  8) การบันทึกภาพโดยกล้องวงจรปิด CCTV

                  9) ข้อมูลการเข้าร่วมประชุมระหว่างบริษัทฯ รวมถึงข้อมูลการเข้าร่วมการอบรม สัมมนา กิจกรรม หรือโครงการอื่น ๆ ที่ บริษัทฯ จัดขึ้น โดยอาจมีการบันทึกภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว และหรือเสียงระหว่างการประชุม อบรม สัมมนา หรือกิจกรรมดังกล่าว

                  10) ข้อมูลที่จำเป็นอื่น ๆ เพื่อการตรวจสอบประวัติ การประเมินความเหมาะสมหรือการพิจารณาความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจเข้าทำธุรกรรม รวมถึงเพื่อการดำเนินคดีหรือการบังคับคดี เช่น สถานภาพการสมรส ข้อมูลเกี่ยวกับทรัพย์สิน เป็นต้น

                  11) ความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ ข้อร้องเรียน

                  12) ประวัติการร่วมกิจกรรม หรือโครงการต่าง ๆ กับบริษัทฯ

                  13) ข้อมูลการคัดกรองตามมาตรการป้องกันโรคระบาด

                  14) ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งานระบบอิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ของบริษัทฯ

                  15) ข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ เพื่อการอำนวยความสะดวกตามจำเป็น เช่น อาหารเครื่องดื่มที่ทาน เป็นต้น

        4.2 ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อน

        บริษัทฯไม่มีความประสงค์จะเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลศาสนาและหมู่โลหิตที่ปรากฎอยู่ในสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ใดโดยเฉพาะ หากท่านได้มอบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนให้แก่บริษัทฯ ขอให้ท่านปกปิดข้อมูลดังกล่าว หาก ท่านมิได้ปกปิดข้อมูลข้างต้น และถือว่าเอกสารมีผลสมบูรณ์และบังคับใช้ได้ตามกฎหมายทุกประการ บริษัทฯ จะเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของเอกสารยืนยันตัวตนของท่านเท่านั้น ในกรณีที่บริษัทฯ จำเป็นจะต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อนของท่าน บริษัทฯ จะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่านเป็นกรณีไป ทั้งนี้ เว้นแต่กฎหมายจะกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น บริษัทฯ อาจมีการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อน ดังนี้

        1) ข้อมูลศาสนา

        2) ข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ และหรือความพิการ

        2.3 ระยะเวลาในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

        บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เป็นระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งได้ระบุไว้ในเอกสารฉบับนี้ หลักเกณฑ์ที่ใช้กำหนดระยะเวลาจัดเก็บ ได้แก่ ระยะเวลาที่บริษัทฯ ยังคงจำเป็นต้องใช้ประโยชน์จากข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตามวัตถุประสงค์ และอาจเก็บต่อไปตามระยะเวลาที่จำเป็น เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายหรือตามอายุความทางกฎหมาย เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการ ยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมายหรือเพื่อเหตุอื่นตามนโยบายและข้อกำหนดภายในองค์กรของบริษัทฯ ทั้งนี้ ภายในอายุความสูงสุดตามกฎหมาย เช่น ไม่เกิน 5 ปี นับแต่วันที่สัญญาสิ้นสุดลง บริษัทฯ จะจัดเก็บข้อมูลภาพ และ/หรือเสียงของท่าน โดยใช้กล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) เป็นระยะเวลาไม่เกิน 3 เดือน นับจากวันที่บันทึกข้อมูล ทั้งนี้ เมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาข้างต้น ข้อมูลภาพ และหรือเสียงจะถูกลบจากระบบโดยอัตโนมัติ หรือบริษัทฯ จะทำการ ลบหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้

        บริษัทฯ จะลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล หรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุถึงตัวตนของท่านได้ เมื่อหมดความจำเป็นหรือ สิ้นสุดระยะเวลาดังกล่าว กรณีที่บริษัทฯ ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยได้ข้อความยินยอมจากท่านแล้ว บริษัทฯ จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ดังกล่าวจนกว่าท่านจะแจ้งยกเลิกความยินยอม และบริษัทฯ ได้ดำเนินการตามคำขอของท่านเรียบร้อยแล้ว

 

5. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

        บริษัทฯ จะเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลสวนบุคคลของลูกค้าหรือผู้ใช้บริการ , คู่ค้า และผู้ติดต่อภายนอก รวมถึงผู้มีความสัมพันธ์ทางธุรกิจ เท่าที่จำเป็นแก่การดำเนินงานภายใต้วัตถุประสงค์ของบริษัทฯ

        5.1 โดยทั่วไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าหรือผู้ใช้บริการ, คู่ค้า และผู้ติดต่อภายนอก รวมถึงผู้มีความสัมพันธ์ทางธุรกิจ บริษัทฯ อาจ ดำเนินการประมวลผลข้อมูล เพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ ข้อที่ วัตถุประสงค์

 

ข้อที่ วัตถุประสงค์ ฐานทางกฎหมาย
(1) เพื่อการติดต่อประสานงานที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของ บริษัทฯ ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบ ด้วยกฎหมาย (Legitimate Interests)
(2) เพื่อการเก็บและใช้ข้อมูลส่วนบคคลของลูกค้าหรือผู้ใช้บริการ, คู่ค้าและผู้ติดต่อภายนอก รวมถึงผู้มีความสัมพันธ์ทางธรกิจ ได้แก่ ชื่อ-นามสกุลตำแหน่ง หน่วยงาน และภาพถ่ายภาพเคลื่อนไหวที่เกียวกับการดำเนินงานและกิจกรรมของบริษัทฯ เพื่อการเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น อีเมลภายในบริษัทฯ เว็บไซต์ของบริษัทฯ Facebook LINE You Tube หรือสื่อออนไลน์อื่น ๆ ของ บริษัทฯ หรือสืออื่น ๆ เช่น โทรทัศน์ สิ่งพิมพ์ เป็นต้น ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบ ด้วยกฎหมาย (Legitimate Interests)
(3) เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการสมัครเข้าใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือการเปิดสิทธิการเข้าถึงหรือใช้งาน ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบ ด้วยกฎหมาย อินเตอร์เน็ตหรือระบบอิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบ ด้วยกฎหมาย (Legitimate Interests)
(4) เพื่อดำเนินการวางแผน การรายงาน และการคาดการณ์ทางธุรกิจ การบริหารความเสี่ยง การ กำกับการตรวจสอบ รวมถึงการตรวจสอบภายใน และการบริหารจัดการภายในองค์กร รวมถึง เพื่อใช้ประโยชน์ในการดำเนินงานภายในบริษัทฯ ที่เกี่ยวข้องกับการเบิกจ่ายเงินของหน่วยงาน บัญชีการเงินของบริษัทฯ ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบ ด้วยกฎหมาย (Legitimate Interests)
(5) เพื่อเป็นข้อมูลในการดำเนินการ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของบริษัทฯ รวมถึงการตรวจสอบ สถานะกิจการ หรือการตรวจสอบประวัติรูปแบบอื่น ๆ เพื่อการประเมินความเหมาะสม หรือการ พิจารณาความเสี่ยง ก่อนการตัดสินใจเข้าทำธุรกรรมต่าง ๆ ร่วมกัน การพิสูจน์และการยืนยัน ตัวตน และหรือการตรวจสอบอำนาจ การมอบอำนาจและการรับมอบอำนาจในการลงนาม ข้อตกลง หรือสัญญาใด ๆ กับบริษัทฯ ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบ ด้วยกฎหมาย (Legitimate Interests)
(6) เพื่อการดำเนินการเกี่ยวกับการโอนสิทธิ หน้าที่ และผลประโยชน์ใด ๆ เช่น การควบรวมกิจการ การแยก หรือ การโอนกิจการ หรือซึ่งได้กระทำโดยชอบด้วยกฎหมาย ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบ ด้วยกฎหมาย (Legitimate Interests)
(7) เพื่อเป็นฐานข้อมูลผู้มีส่วนได้สวนเสีย (Stakeholders) ของบริษัทฯ และ/หรือใช้ข้อมูลเพื่อการ บริหารความสัมพันธ์ หรือการติดต่อประสานงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับบริษัทฯ รวมถึงการสำรวจ ความคิดเห็น เพื่อนำมาวิเคราะห์และปรับปรุงการดำเนินงานของบริษัทฯ ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบ ด้วยกฎหมาย (Legitimate Interests)
(8) เพื่อการเปิดเผยข้อมูลที่จำเป็น เพื่อการปฏิบัติตามเกณฑ์การประเมินต่าง ๆ ที่บริษัทเข้าร่วม ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบ ด้วยกฎหมาย (Legitimate Interests)
(9) เพื่อการสืบสวน สอบสวนเรื่องร้องเรียนภายในองค์กร การป้องกันการทุจริต หรือการดำเนิน กระบวนการทางกฎหมายอื่นใด รวมทั้งการตรวจสอบและจัดการข้อร้องเรียนและข้อกล่าวหาที่ เกี่ยวกับการดำเนินการของบริษัทฯ หรือผู้ที่เกี่ยวข้องให้เกิดความโปร่งใสและความยุติธรรมกับ ทุกฝ่าย ความจำเป็นเพื่อประโยซน์โดยชอบ ด้วยกฎหมาย (Legitimate Interests)
(10) เพื่อการรักษาความปลอดภัยภายในบริเวณอาคาร สถานที่ ของบริษัทฯ รวมถึงการแลกบัตรก่อน เข้าบริเวณพื้นที่ดังกล่าว การบันทึกภาพผู้ที่มาติดต่อกับ บริษัทฯ หรืออาคาร สถานที่ ของบริษัทฯ ด้วยกล้องวงจรปิด (CCTV) ความจำเป็นเพื่อประโยซน์โดยชอบ ด้วยกฎหมาย (Legitimate Interests)
(11) เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การมอบอำนาจและการรับมอบอำนาจ การปฏิบัติ ตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การ ดำเนินคดีต่าง ๆ ตลอดจนการดำเนินการเพื่อบังคับคดีตามกฎหมาย ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยซอบด้วยกฎหมาย(Legitimate Interests) การปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation)
(12) เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย หรือการปฏิบัติตามหมายศาล หนังสือ หรือคำสั่งของหน่วยงาน การปฏิบัติตามกฎหมาย องค์กรอิสระ หรือเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่และอำนาจตามกฎหมาย เช่น หมายอายัด คำสั่งของศาล เจ้าหน้าที่ตำรวจ อัยการ หน่วยงานราชการ รวมถึงการรายงานหรือ เปิดเผยข้อมูลต่อผู้ถือหุ้น หน่วยงานราซการ หรือองค์กรอิสระ เช่น กรมสรรพากร สำนักงาน คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย ที่เกี่ยวข้อง การปฏิบัติตามหมายเรียก (Legal Obligation)
(13) เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับประโยชน์สาธารณะด้านการสาธารณสุข เช่น การป้องกัน ด้านสุขภาพจากโรคติดต่ออันตรายหรือโรคระบาดที่อาจติดต่อหรือแพร่เข้ามาในราชอาณาจักร การปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation)
(14) เพื่อการบริหารจัดการด้านสุขอนามัยและความปลอดภัย การป้องกันหรือระงับอันตรายต่อ ชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพบุคคล (Vital Interests)

         นอกจากวัตถุประสงค์ดังกล่าวข้างต้น บริษัทฯ อาจทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพิ่มเติม ในกรณีต่างๆ ดังต่อไปนี้

         5.2 ในกรณีที่เป็นคู่ค้า บริษัทฯ อาจดำเนินการประมวลผลข้อมูลของคู่ค้าฯเพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ เพิ่มเติมดังต่อไปนี้

ข้อที่ วัตถุประสงค์ ฐานทางกฎหมาย
(1) เพื่อการดำเนินการตามกระบวนการต่าง ๆ ก่อนเข้าทำสัญญา เช่น
  • การขึ้นทะเบียนคู่ค้า
  • การพิจารณาคุณสมบัติของคู่ค้า
  • การจัดเตรียมข้อมูลก่อนเข้าสู่กระบวนการการจัดซื้อจัดจ้าง เช่น การสืบและจัดทำ ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบราคากลาง, การระบุชื่อและรายละเอียดของคู่ค้าในระบบภายในของบริษัทฯ เป็นต้น ด้วยกฎหมาย
  • การซื้อหรือรับแบบประมูล การเข้ารับฟังการชี้แจง การนำเสนอผลงานที่เกี่ยวข้องกับ (Legitimate Interests) งานจัดซื้อจัดจ้าง (แล้วแต่กรณี) ต่อรองราคา การประกาศผลผู้ชนะ
  • การเชิญเสนอราคา การเสนอราคา การตรวจสอบอำนาจ การมอบอำนาจและการรับ มอบอำนาจในการยื่นเอกสารเสนอราคาของผู้เสนอราคา และการพิจารณาคุณสมบัติ ของผู้เสนอราคากับบริษัทฯ ตามกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างของบริษัทฯ รวมถึงกรณีที่ผู้เสนอเป็นผู้ให้บริการ ที่ปรึกษากฎหมาย ที่ปรึกษาบัญชี ที่ปรึกษาธุรกิจ และที่ปรึกษาภาษี ผู้สอบบัญชี ที่ปรึกษาทางการเงิน สถาบันการเงิน ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาระบบบัญชีและการเงิน
  • การจัดทำ Confidentiality Agreement, Non-Disclosure Agreement (NDA), Data Processing Agreement
การปฏิบัติตามสัญญา (Contractual Basis)
(2) เพื่อความจำเป็นในการทำธุรกรรมระหว่างคู่ค้ากับ บริษัทฯ เช่น
  • การตรวจสอบยืนยันตัวตน การตรวจสอบอำนาจ การมอบอำนาจและการรับมอบอำนาจ รวมทั้งเพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้อง
  • การดำเนินการตามกฎ ระเบียบ และกระบนการภายในต่าง ๆ ของ บริษัทฯ
  • การพิจารณา จัดทำ และลงนามในสัญญาทางการค้า
  • การปฏิบัติตามสัญญาว่าจ้าง สัญญาบริการ สัญญาทางการค้าอื่น ๆ และความตกลง หรือความร่วมมือที่เกี่ยวข้อง ระหว่าง บริษัทฯ และคู่สัญญา รวมถึงกระบวนการขอ และพิจารณาเอกสารที่เกี่ยวข้องอันอาจมีข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการบริษัทซึ่งเป็น บุคคลภายนอกหรือผู้แทนจากหน่วยงานรัฐ
  • การตรวจรับงานตามสัญญาระหว่าง บริษัทฯ และคู่ค้า การบริหารพัสดุและสินค้าเชิง พาณิชย์ การออกหนังสือรับรองผลงาน จนแล้วเสร็จ
การปฏิบัติตามสัญญา (Contractual Basis) ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบ ด้วยกฎหมาย (Legitimate Interests)
(3) เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมระหว่างคู่ค้าฯ กับ บริษัทฯ เช่น กฎหมายว่าด้วยภาษีอากร กฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เป็นต้น การปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation)

         5.3 ในกรณีที่เป็นผู้มีความสัมพันธ์ทางธุรกิจ บริษัทฯ อาจดำเนินการประมวลผลข้อมูลของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ เพิ่มเติม ดังต่อไปนี้

ข้อที่ วัตถุประสงค์ ฐานทางกฎหมาย
(1) เพื่อการติดต่อสื่อสารทางธุรกิจ เช่น ติดต่อ นัดพบ เข้าพบ ประชุม ร่วมพบปะพูดคุยทางธุรกิจ เกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ และโครงการต่าง ๆ ของบริษัทฯ หรือโครงการที่เกี่ยวข้องกับบริษัทฯ รวมถึงการบันทึกรายละเอียดเกี่ยวกับการติดต่อดังกล่าว ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interests)
(2) เพื่อการตรวจสอบคุณสมบัติหรือประเมินความเหมาะสมก่อนการตัดสินใจเข้าทำธุรกรรม การ พิจารณาความเสี่ยงในการเข้าทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้อง การพิสูจน์และการยืนยันตัวตน และหรือ การตรวจสอบอำนาจการมอบอำนาจและการรับมอบอำนาจในการลงนามข้อตกลงหรือสัญญา ใด ๆ กับบริษัทฯ การตรวจสอบสถานะกิจการ หรือการตรวจสอบประวัติรูปแบบอื่น ๆ และการ ดำเนินการตามกระบวนการภายในต่าง ๆ ของบริษัทฯ ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interests)
(3) เพื่อการพิจารณา การจัดทำ การลงนามในสัญญาหรือข้อตกลงต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการบริหารสัญญาหรือข้อตกลงดังกล่าว ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interests)

ในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯเก็บรวบรวมเพื่อวัตถุประสงค์ข้างต้นเป็นข้อมูลที่จำเป็นในการปฏิบัติตามสัญญาหรือการปฏิบัติตามกฎหมายต่างๆ ที่ใช้บังคับ หากคู่ค้าฯ ไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นดังกล่าว บริษัทฯ อาจไม่สามารถพิจารณาเข้าทำธุรกรรม หรือบริหารจัดการตามสัญญากับคู่ค้าฯ ได้ (ตามแต่กรณี)

         นอกจากนี้ในกรณีที่ท่านได้ให้ข้อมูลของบุคคลอื่นแก่เราท่านจะต้องรับผิดชอบในการแจ้งให้บุคคลเหล่านั้นทราบถึงนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ และเหรือดำเนินการขอความยินยอม (หากจำเป็น)

 

6. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

        บริษัทฯ อาจมีความจำเป็นต้องเปิดเผย ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าหรือผู้ใช้บริการ, คู่ค้า และผู้ติดต่อภายนอก รวมถึง ผู้มีความสัมพันธ์ทางธุรกิจ ให้แก่บุคคลภายนอกดังต่อไปนี้

         1) หน่วยงานราชการ หน่วยงานกำกับดูแล รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานของรัฐ องค์การมหาชน องค์กรอิสระที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย หรือหน่วยงานอื่นตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงเจ้าพนักงานซึ่งใช้อำนาจหรือปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย เช่น ศาล ตำรวจ กรมสรรพากร สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กรมบังคับคดี สำนักงานอัยการสูงสุด เป็นต้น

         3) หน่วยงาน องค์กร หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการใช้สิทธิเรียกร้อง การดำเนินคดี การโต้แย้งข้อร้องเรียนหรือข้อกล่าวหา การต่อสู้คดี ของบริษัทฯ เช่น คู่ความในคดี พยาน เป็นต้น

         4) ตัวแทน ผู้รับจ้าง/ผู้รับจ้างช่วง และ/หรือผู้ให้บริการสำหรับการดำเนินงานใดๆ ให้แก่บริษัทฯ เช่น ที่ปรึกษาทางวิชาชีพ ผู้ให้บริการขนส่ง บริษัทรับจ้างทำกิจกรรมทางการตลาด บริษัทรับจ้างจัดหาที่พักและการเดินทาง บริษัทรับดำเนินการจัดกิจกรรม งาน อบรม หรืองานสัมมนา ผู้รับจ้างจัดกิจกรรม ผู้รับจ้างผลิตสื่อ ผู้รับจ้างประชาสัมพันธ์ ผู้รับประกันภัย ผู้สอบบัญชี ที่ปรึกษากฎหมาย เป็นต้น

         5) ผู้มีความสัมพันธ์ทางธุรกิจ (ในกรณีที่มีความจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญา กรณีมีการดำเนินโครงการหรือทำธุรกิจร่วมกัน)

         6) ผู้เข้าร่วมอบรม

         7) ธนาคาร หรือสถาบันการเงิน

         8) บุคคลภายนอกอื่น ๆ เช่น การเปิดเผยข้อมูลผ่านช่องทาง Social Media ของบริษัทฯ หรือการประชาสัมพันธ์ภาพกิจกรรม หรือข่าวสารการทำกิจกรรมหรือโครงการของบริษัทฯ ไปยังสื่อมวลชนและบุคคลภายนอก เป็นต้น

         8) บุคคลภายนอกอื่น ๆ เช่น การเปิดเผยข้อมูลผ่านช่องทาง Social Media ของบริษัทฯ หรือการประชาสัมพันธ์ภาพกิจกรรม หรือข่าวสารการทำกิจกรรมหรือโครงการของบริษัทฯ ไปยังสื่อมวลชนและบุคคลภายนอก เป็นต้น

         9) โรงพยาบาลหรือสถานพยาบาล

 

7. การส่งหรือเปิดเผยข้อมูลไปต่างประเทศ

        ในบางกรณี บริษัทฯ อาจมีความจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าหรือผู้ใช้บริการ, คู่ค้า และผู้ติดต่อภายนอกรวมถึงผู้มีความสัมพันธ์ทางธุรกิจ ไปยังต่างประเทศ ซึ่งอาจมีมาตรฐานในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลแตกต่างไปจากประเทศไทยเนื่องจากบริษัทฯ มีการประกอบธุรกิจหรือมีการทำธุรกรรมต่าง ๆ กับบริษัทต่างประเทศ ดังนั้น บริษัทฯ อาจจำเป็นที่จะต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ให้กับบริษัทเหล่านั้น รวมถึงหน่วยงานราชการที่ปรึกษาทางวิชาชีพ และบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องและจำเป็นต้อง เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว เพื่อประกอบการดำเนินธุรกิจตามปกติของบริษัทฯ รวมถึงอาจมีการเปิดเผยข้อมูลไปต่างประเทศเพื่อ ประกอบการดำเนินคดีหรืออนุญาโตตุลาการซึ่งอาจมีขึ้นในอนาคต นอกจากนี้ บริษัทฯ อาจมีการเก็บข้อมูลของท่าน บนคอมพิวเตอร์เซิร์ฟเวอร์หรือคลาวด์ของผู้ให้บริการที่อยู่ต่างประเทศ และอาจมีการประมวลผลข้อมูลโดยใช้โปรแกรมหรือแอปพลิเคชันสำเร็จรูปของผู้ให้บริการในต่างประเทศ

        อย่างไรก็ตาม ในการส่งหรือโอนข้อมูลดังกล่าวไม่ว่ากรณีใดๆ บริษัทฯ จะปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562

 

8. สิทธิของลูกค้าหรือผู้ใช้บริการ, คู่ค้า และผู้ติดต่อภายนอก รวมถึงผู้มีความสัมพันธ์ทางธุรกิจในฐานะเจ้าของข้อมูล

        ลูกค้าหรือผู้ใช้บริการ, คู่ค้า และผู้ติดต่อภายนอก รวมถึงผู้มีความสัมพันธ์ทางธุรกิจในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล มีสิทธิตามที่กำหนดไว้โดยพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ดังนี้

        8.1 สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม (Right to Withdraw Consent) เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ที่ท่านได้ให้ความยินยอมกับบริษัทฯ ได้ เว้นแต่การเพิกถอนความยินยอมจะมีข้อจำกัดโดยกฎหมายหรือสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่าน ทั้งนี้ การเพิกถอนความยินยอมจะไม่ส่งผลกระทบต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่าน ได้ให้ความยินยอมไปแล้วโดยชอบด้วยกฎหมาย

        8.2 สิทธิในการขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Access) เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ที่อยู่ในความรับผิดชอบของบริษัทฯ และขอให้บริษัทฯ ทำสำเนาข้อมูลดังกล่าวให้แก่ท่น รวมถึงขอให้บริษัทฯ เปิดเผยถึงการได้มาของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ที่ท่านไม่ได้ความยินยอมไว้

        8.3 สิทธิในการขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล (Data Portability Right) เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ส่งหรือโอนข้อมูลสวนบุคคลของท่าน ที่ให้ไว้กับบริษัทฯ ไปยังบุคคลอื่นได้ ตามที่กฎหมายกำหนด (มาตรา 31)

        8.4 สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Object) เจ้าของข้อมูลมีสิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนได้ตามที่กฎหมายกำหนด

        8.5 สิทธิในการขอลบข้อมูลส่วนบุคคล (Erasure Right) เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ดำเนินการลบหรือทำลายหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ กรณีที่บริษัทฯ หมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ ตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลหรือเมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ใช้สิทธิขอถอนความยินยอมหรือใช้สิทธิขอคัดค้านแล้ว หรือเมื่อข้อมูลส่วนบุคคลได้ถูกเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย

        8.6 สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Restrict Processing) เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ตามที่กฎหมายกำหนด (มาตรา 34) เช่น เมื่อบริษัทฯ อยู่ในระหว่างการตรวจสอบความเป็นปัจจุบันหรือสมบูรณ์ของข้อมูลส่วนบุคคล หรือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลได้ถูกเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย ไม่ชอบด้วย PDPA หรือบริษัท ฯ หมดความจำเป็นในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยแล้ว เป็นต้น

        8.7 สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง (Rectification Right) กรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เห็นว่าข้อมูลที่บริษัทฯมีอยู่นั้นไม่ถูกต้องหรือมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เอง ท่านมีสิทธิขอให้ บริษัทฯ แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

        8.8 สิทธิในการร้องเรียน (Right to Lodge a Complaint) เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิร้องเรียนต่อผู้มีอำนาจตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หากท่านเชื่อว่าการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่น เป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติดังกล่าวได้

 

  1. การทบทวนและปรับปรุงการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล

        บริษัทฯ อาจแก้ไขปรับปรุงนโยบายนี้เพื่อให้สอดคล้องกับการตีความ การบังคับใช้ และการเปลี่ยนแปลง PDPA โดยหน่วยงาน ของรัฐ (ถ้ามี ในอนาคต โดยบริษัทฯ จะดำเนินการประกาศลงในเว็บไซต์ของบริษัทฯ รวมถึงช่องทางอื่นๆ ที่เหมาะสมต่อไป ทั้งนี้ ขอให้ เจ้าของข้อมูลสวนบุคคลเข้ามาอ่านทบทวนและทำความเข้าใจนโยบายดังกล่าวอย่างสม่ำเสมอ (มาตรา 32)

 

  1. วิธีการติดต่อบริษัทฯ

        สำหรับการขอใช้สิทธิตามข้อ 8 (1)-(8) ข้างต้น สามารถทำได้โดยยื่นคำร้องขอใช้สิทธิต่อบริษัทฯ ตามแบบฟอร์มที่บริษัทฯกำหนด ไปยังเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ (“Data Protection Officer”) ผ่านเว็บไซต์ของบริษัทฯ ดังนี้ www.aitinnovation.co.th

        สในกรณีที่มีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือมีข้อร้องเรียนใดๆ ท่านสามารถติดต่อบริษัทฯ ได้ตามช่องทางดังต่อไปนี้